Tuesday, July 12, 2016

กระเทียม : สุดยอดสมุนไพรต้านมะเร็ง

เราคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่ากระเทียมอยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน แต่เรารู้หรือไม่ว่าในบรรดาพืชผักสมุนไพรทั้งหมด “กระเทียม” มีความสามารถในการป้องกันมะเร็งสูงสุด โดยได้รับการยืนยันจากรายงานวิจัยทั่วโลกหลายฉบับ องค์ประกอบในกระเทียมมีความสลับซับซ้อน แต่พบว่ามีสารชนิดหนึ่งในกระเทียมที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็งคือสารอัลลิลซัลไฟด์ (allyl sulphides) โดยจะไปยับยั้งการเกิดสารก่อมะเร็งในร่างกาย

การรับประทานกระเทียมทุกวันไม่เพียงลดความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งได้ทุกชนิด กระเทียมยังช่วยลดไตรกลีเซอไรด์และโคเลสเตอรอลในเลือด ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันทำให้ร่างกายต่อสู้กับอาการภูมิแพ้ได้ดีขึ้น ช่วยให้ร่างกายหลั่งอินซูลินและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในคนที่เป็นโรคเบาหวาน

การทานกระเทียมให้ได้ประโยชน์สูงสุด ควรจะทานสด หรือให้ผ่านความร้อนน้อยที่สุด เมื่อรู้ดังนี้แล้ว เรามาทานกระเทียมทุกวันกันเถอะ โดยปริมาณกระเทียมที่ควรทานคือ 4 กรัมต่อวัน

เก็บผัก ผลไม้ในตู้เย็น ช่วยคงคุณค่าสารอาหารจริงหรือ?

เป็นที่ทราบกันแล้วว่า ผักผลไม้เมื่อนำมาผ่านความร้อน จะทำให้เสียคุณค่าทางอาหารไป แต่จะมีกี่คนที่ทราบว่าการนำผักผลไม้แช่ตู้เย็น ก็เสียคุณค่าทางอาหารเช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญอธิบายไว้ว่า ผักผลไม้นั้นยังมีชีวิตอยู่แม้เมื่อตัดออกมาจากต้นแล้ว ดังนั้น ผักผลไม้จึงยังมีความสามารถในการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะ “แสง” ผักผลไม้จะมีการผลิตสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเมื่อได้รับแสง ดังนั้น เมื่อเรานำผักผลไม้ไปแช่ตู้เย็น เมื่อปิดประตู ภายในตู้เย็นจะมืดสนิท ทำให้ปริมาณสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพลดลง
มีผลการทดลองทางวิทยาศาสตร์เป็นเครื่องยืนยันคำกล่าวอ้างข้างต้น นักวิทยาศาสตร์ทำการทดลองโดยนำกะหล่ำปลีที่ซื้อมาจากตลาด มาวัดระดับสารเคมีชนิดหนึ่งซึ่งมีคุณสมบัติต้านมะเร็งและโรคหัวใจ พบว่าระดับสารเคมีไม่คงที่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยแปรผันตามระดับของแสง และมีระดับสูงสุดเวลาเที่ยง
แล้วเราควรทำอย่างไรดี? ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เก็บผักผลไม้ให้ตรงตามวงจรมืดสว่าง และนำมากินในเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้เราได้รับคุณค่าทางอาหารสูงสุด
แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่าควรกินผักผลไม้เวลาไหน เพื่อให้ได้คุณค่าทางอาหารสูงสุด? คำถามนี้ แม้แต่นักวิจัยก็ยังไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากผักผลไม้แต่ละชนิดอาจมีเวลาที่เหมาะสมในการผลิตสารอาหารแตกต่างกันไป แต่มีทางเลือกคือให้นำผักผลไม้แช่แข็งในเวลากลางวัน เพื่อให้สารอาหารมีระดับคงที่ที่ปริมาณสูงสุด อีกทางเลือกหนึ่งคือปรับให้ตู้เย็นสามารถเปิดปิดแสงได้ตามเวลาที่ต้องการ
อ่านแล้วได้อะไรกันบ้างคะ? อย่างน้อยเราก็ได้เรียนรู้ว่าการที่เราซื้อผักผลไม้มาเก็บไว้ในตู้เย็นนานๆ จะทำให้สารอาหารลดลง ถ้าเป็นไปได้ เราควรซื้อผักผลไม้แต่พอกิน เพื่อจะได้ไม่ต้องแช่ตู้เย็นนานเกินไป หรือถ้าจะให้ดี ผักผลไม้ชนิดใดที่ไม่จำเป็นต้องแช่ตู้เย็น เราควรวางไว้นอกตู้เย็นจะดีกว่า เพื่อให้ผักผลไม้ได้รับแสงตามธรรมชาติและผลิตสารอาหารที่มีประโยชน์ให้เราได้ทานกัน

การเตรียมตัวเดินทางด้วยเครื่องบินกับผู้สูงอายุ

สำหรับผู้สูงอายุแล้วการเดินทางด้วยเครื่องบินอาจไม่ค่อยสะดวกสบายนัก จากจุดเช็คอินไปถึงจุดขึ้นเครื่องมีระยะทางที่ไกล ผู้สูงอายุอาจเดินไม่ไหว ถ้าเป็นเส้นทางบินที่ไกล ผู้สูงอายุจะต้องนั่งในพื้นที่คับแคบนานๆ กินอาหารไม่ตรงเวลา ยิ่งช่วงเทศกาล ผู้คนในสนามบินก็หนาแน่น ทำให้ต้องยืนเข้าคิวเพื่อตรวจสอบเอกสารนาน แล้วยังได้รับของฝากจากใครก็ไม่รู้ มาจากไหนก็ไม่รู้ นั่นก็คือเชื้อโรคอะไรก็ไม่รู้ที่เราอาจไม่รู้จักและไม่มีภูมิต้านทาน

ถึงกระนั้นก็ตาม หากเราได้มีการวางแผนและเตรียมตัวที่ดี การเดินทางด้วยเครื่องบินกับผู้สูงอายุก็ไม่ใช่เรื่องยากลำบากอะไร เราควรเตรียมความพร้อมในเรื่องดังต่อไปนี้
1. ศึกษาข้อมูลก่อนจองตั๋ว เช่น สภาพภูมิอากาศ สถานการณ์ทั่วไป ไม่ควรเดินทางไปในที่มีความเสี่ยงทั้งต่อสุขภาพและความปลอดภัย
2. ถ้าเป็นไปได้ เลือกที่นั่งติดทางเดิน เพื่อจะได้เดินไปเข้าห้องน้ำสะดวก หรือเดินยืดเส้นยืดสายสะดวก
3. เตรียมของใช้ที่จำเป็นให้ครบ แต่ก็อย่าให้กระเป๋าเดินทางหนักจนเกินไป ถึงแม้ว่าสนามบินจะมีรถเข็นบริการ แต่ในบางสถานการณ์ เราก็ต้องหิ้วเองบ้างแหละ
4. จัดเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะกับสภาพอากาศของประเทศที่จะไป
5. กรณีที่มีโรคประจำตัว ควรรอให้มีอาการดีขึ้นและปลอดภัยก่อนที่จะเดินทาง
6. หากเป็นการเดินทางไกลซึ่งเวลาของสถานที่ปลายทางแตกต่างจากต้นทางมาก ควรวางแผนการใช้ยาให้ดีว่าจะต้องกินยากี่โมง จะดูเวลาของสถานที่ใดเป็นหลัก ไม่เช่นนั้นอาจทำให้กินยาผิดเวลา ส่งผลให้ได้รับยามากเกินขนาด หรือไม่ได้กินยาตามเวลาที่ควรจะกิน ทำให้อาการของโรคกำเริบได้
7. ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพก่อนการเดินทาง เตรียมยาที่จำเป็นติดตัวและเช็คเรื่องวัคซีนที่ควรได้รับ
8. ทำประกันสุขภาพสำหรับการเดินทาง
9. ใส่เสื้อผ้าและรองเท้าที่สบายในวันเดินทาง
10. ของบางอย่างที่อาจต้องเตรียมไปด้วย เช่น
  • ที่อุดหูเพื่อป้องกันเสียง ถุงน่องรัดขาสำหรับใส่เมื่อถึงที่พักเพื่อลดอาการปวดขา สำหรับกรณีที่ระยะทางบินค่อนข้างไกล
  • ผ้าปิดปาก เพื่อลดการติดเชื้อ หากเดินทางช่วงเทศกาลซึ่งมีคนหนาแน่น
  • ของกินเล่น หรือหนังสือ เผื่อเครื่องบินดีเลย์
  • ยาที่จำเป็น กรณีมีโรคประจำตัว และควรเตรียมใบรับรองแพทย์ไปด้วยเพื่อชี้แจงเหตุผลกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

เพียงเท่านี้ น่าจะช่วยให้การเดินทางกับผู้สูงอายุโดยเครื่องบินมีความสะดวก ราบรื่นมากขึ้น

การแปลงจำนวนเงินเป็นตัวหนังสือในเวิร์ด


หากเราต้องการแปลงจำนวนเงินเป็นตัวหนังสือ  คนส่วนใหญ่จะใช้มือพิมพ์ ซึ่งมีโอกาสผิดพลาดได้ และเสียเวลา  ในโปรแกรมเวิร์ดสามารถใช้คำสั่ง bahttext เพื่อให้แสดงจำนวนเงินเป็นตัวหนังสือ โดยการใส่สูตรในตาราง ดังนี้

1. สร้างตาราง (แม้จะไม่ต้องการตาราง ก็ต้องสร้างตาราง แล้วซ่อนเส้นตาราง)
2. การอ้างถึงเซลล์ จะใช้วิธีเดียวกับ Excel คือ ใช้ตัวเลขในการนับบรรทัด ใช้อักษรภาษาอังกฤษในการนับคอลัมน์ จากตัวอย่าง เซลล์อ้างอิงคือ b1 (เซลล์ที่มีตัวเลข)
3. พิมพ์ตัวเลขในเซลล์อ้างอิง แล้ววางเคอร์เซอร์ที่เซลล์ใดก็ได้ (ที่ต้องการแสดงผลจำนวนเงินเป็นตัวหนังสือ)
4. กรณี Word 2003 ไปที่ table > formula…> พิมพ์สูตร =b1\*bahttext แล้วคลิกปุ่ม OK
กรณี Word 2010, 2013 ไปที่ Layout > formula > พิมพ์สูตร =b1\*bahttext แล้วคลิกปุ่ม OK
เพียงเท่านี้ โปรแกรมเวิร์ดก็จะอ่านจำนวนเงินเป็นหนังสือให้โดยอัตโนมัติ
หากตัวเลขมีการเปลี่ยนแปลง เราเพียงอัพเดท (ไม่ต้องพิมพ์สูตรใหม่) โดยวางเคอร์เซอร์ที่ตัวหนังสือ แล้วกดปุ่ม F9 บนคีย์บอร์ด

Sunday, July 10, 2016

BlueMonkey สนามเด็กเล่นในร่มย่านพุทธมณฑลสาย 1


วันนี้ได้มีโอกาสพาลูกชายวัย 4 ขวบไปสนามเด็กเล่นในร่ม Blue Monkey แถวพุทธมณฑลสาย 1 จะอยู่พิกัดไหน ลองกูเกิ้ลดูนะคะ หรือดูแผนที่จากเว็บตามนี้เลยค่ะ http://www.bluemonkeyplay.com/page/contactus

ราคา

ว่ากันด้วยราคากันก่อนเลยค่ะ ถ้าเป็นเด็กเล็กอายุ 1 ขวบขึ้นไปและสูงไม่เกิน 105 ซม. 200 บาท เด็กโตสูงเกิน 105 ซม. 320 บาท ผู้ใหญ่ 100 บาท ส่วนเด็กอายุน้อยกว่า 1 ปีและผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) เข้าฟรีเลยค่ะ จะเข้ากี่โมงก็ราคาเดียว อยู่ได้ทั้งวัน เปิด 10.00 - 19.00 น. ช่วงนี้ราคาวันธรรมดากับวันหยุดยังใช้ราคาเดียวกัน ยังไงเช็คราคาปัจจุบันที่เว็บได้เลย http://www.bluemonkeyplay.com/page/page-feeandmembership แต่ถ้าใครบ้านใกล้ๆ กะว่าสามารถไปได้บ่อยๆ มีราคาสมาชิกตามรูปด้านล่างค่ะ


กฎ กติกา มารยาท

กติกาเหมือนสนามเด็กเล่นในร่มทั่วไปคือทุกคนต้องสวมถุงเท้า เพื่อรักษาความสะอาด และเมื่อเข้าไปแล้ว อนุญาตให้ออกข้างนอกได้ครั้งเดียว เช่น ไปกินข้าว ที่นี่ไม่อนุญาตให้นำเครื่องดื่มและอาหารเข้าไปภายในนะคะ

อาหารการกิน

ด้านในอาคาร Blue Monkey มีอาหารขายที่ชั้น 2 เมนูอาหารเป็นแบบรองท้อง เช่น ฮอทดอก แซนวิช นักเกต เฟรนฟราย น้ำผลไม้ น้ำอัดลม ป๊อปคอร์น ราคาแพงกว่าข้างนอกนิดหน่อย แต่ก็รับได้ค่ะ ไม่เว่อร์มาก ถ้ากลัวไม่อิ่ม ก็ต้องออกไปกินข้างนอกหละค่ะ ตึกที่อยู่ติดกันเป็นร้านอาหาร Daisy ดูน่าทานมากค่ะ แต่วันที่ไปยังไม่ได้ลอง เผอิญเจอรีวิวในพันธ์ทิพย์ เลยนำลิงก์มาแปะให้ตามไปอ่านกันค่ะ http://pantip.com/topic/33370269 

การเดินทาง

เท่าที่ดู ไม่น่าจะมีรถประจำทาง รถแท็กซี่ก็ไม่น่าจะมีผ่านมาเยอะ ดังนั้น รถยนต์ส่วนตัวน่าจะเป็นการเดินทางที่สะดวกสุด ที่นี่มีพื้นที่สำหรับจอดค่อนข้างเยอะ กะว่าประมาณ 60-70 คัน แต่จอดกลางแจ้ง ถ้าฝนตกอาจไม่ค่อยสะดวกเท่าไร

สถานที่

Blue Monkey เพิ่งเปิดบริการเมื่อวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2558 ดังนั้น สถานที่และอุปกรณ์ต่างๆ ยังดูดีมาก ใช้งานได้ดี สะอาด ไม่เก่า ไม่ชำรุด  อุปกรณ์เครื่องเล่นดูปลอดภัยดี แต่พื้นที่ไม่กว้างขวางเมื่อเทียบกับสนามเด็กเล่นในร่มอื่น เช่น fun arium, playtime แต่ก็ไม่คับแคบจนเกินไป ส่วนห้องน้ำก็มีให้บริการทั้งชั้นล่าง และชั้นสอง มีห้องน้ำสำหรับเด็กด้วย ซึ่งชักโครกมีขนาดเล็ก นอกจากนี้ มีห้องให้นมเด็กและห้องปฐมพยาบาลด้วย

โซนเล่น

Blue Monkey มีหลายโซนด้วยกัน
โซนเด็กเล็กอยู่ชั้นล่าง สำหรับเด็กอายุไม่เกิน 4 ขวบ

โซนเด็กโตมีทั้งชั้นล่างและชั้นสอง หลักๆจะอยู่ชั้นล่างมากกว่า ดูรูปเลยละกัน อันนี้ถ่ายมาไม่ครบ จริงๆ มีสไลเดอร์ 3 แถว แทมโพลีน เกมบันไดลิง (ทอยลูกเต๋าแล้วเดิน ใครถึงเส้นชัยก่อนเป็นผู้ชนะ) โซนขับรถ แต่ต้องเสียเงิน 80 บาท ขับได้ 10 นาที มีรถให้เลือกทั้งมอเตอร์ไซด์ และรถยนต์ นอกจากนี้ มีอินเตอร์แอคทีฟ และวงกตเลเซอร์ ซึ่งยังไม่ได้ลองเล่น ไม่รู้ว่าเป็นยังไงค่ะ  ส่วนผู้ปกครองที่มาด้วยสามารถนั่งดูได้ มี wifi ฟรีสำหรับผู้ปกครองด้วย เน็ตเร็วใช้ได้เลย
      
่วนชั้นบน เป็นโซนบทบาทสมมติ (อาชีพจำลอง) เมื่อวันที่ไป ยังไม่ได้เล่นค่ะ เลยมีภาพน้อยไปหน่อย แล้วชั้นนี้มีตู้เกมส์หยอดเหรียญแบบที่เราเห็นตามห้างค่ะ
  

ทางขึ้นชั้นสอง เก๋มากค่ะ เป็นทางลาด ปูด้วยหญ้าเทียม เด็กๆชอบมาก แค่ได้วิ่งขึ้นวิ่งลงก็สนุกมากแล้ว

สรุป

จุดเด่น
  • เป็นสถานที่สำหรับเด็กที่คุ้มค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็กอายุต่ำกว่า 1 ปีที่เข้าฟรี และการที่ไม่กำหนดเวลาเล่น สามารถเล่นได้ทั้งวัน
  • สถานที่ อุปกรณ์ สะอาด ปลอดภัย มี wifi ฟรี
  • เจ้าหน้าที่เต็มใจให้บริการ
จุดด้อย
  • การเดินทางอาจไม่สะดวกสำหรับคนไม่มีรถส่วนตัว
  • เมนูอาหารที่ขายไม่หลากหลาย ถ้ามีข้าวด้วยคงจะดี เช่น ข้าวไข่เจียว ข้าวผัด ผัดกะเพรา ยำต่างๆ
ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ